เมื่อพูดสัตว์เลี้ยง หลายคนจะนึกถึงแมวเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน และทาสแมวส่วนใหญ่มักจะเลือกน้องเหมียวสายพันธุ์จากต่างประเทศ เนื่องจากมีความน่ารัก ขี้อ้อน และนิสัยที่มีความพิเศษแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพันธุ์ แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีแมวไทยมงคลที่ยังไม่สูญพันธุ์ ที่ยังได้รับนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เพราะมีความเชื่อกันว่าจะให้โชคลาภเงินทอง จะมีพันธุ์ไหนบ้าง ไปดูกันเลย
1. วิเชียรมาศ ปรากฏชื่ออยู่ในหลักฐานสมุดข่อยโบราณมากมาย บางตำราเรียกว่า แมวแก้ว ซึ่งในสมัยอยุธยาจะถูกเลี้ยงไว้ในราชสำนักเท่านั้น เพราะเชื่อว่าเป็นแมวที่ให้โชคลาภ ทั้งยังซื้อขายราคาแพงทำให้ชาวบ้านธรรมดาจะไม่มีโอกาสได้เลี้ยง หลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2 พม่าเห็นว่าเป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินที่มีค่าจึงนำกลับไปยังเมืองของตนด้วย จึงทำให้สูญหายไปจากแผ่นดินด้วย ต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ พุทธสรมหาเถระ (นวม พุทฺธโร) เจ้าอาวาสวัดอนงคารามในสมัยนั้น ได้สำรวจกรุงเก่าจนพบกับสมุดข่อยที่บอกเล่าถึงแมวประเภทนี้ จึงให้คนไปตามเสาะหาจนพบและนำกลับมาจนได้ ทำให้กลายแมวไทยมงคลที่ยังไม่สูญพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน
แมววิเชียรมาศ มีลักษณะที่โดดเด่นคือ ตาสีฟ้าใส ลำตัวสั้นแน่นสีออกโทนขาวแกมน้ำตาลอ่อน และมีแต้มสีครั่ง บริเวณหน้า หู หาง และอวัยวะเพศรวม 9 ตำแหน่ง ส่วนหางยาว ปลายแหลมตรง โคนใหญ่จากนั้นค่อย ๆ เล็กลงไปจนสุด ขาเรียวได้สัดส่วน ซึ่งวิเชียรมาศมีชื่อเสียงโด่งดังจนชาวต่างชาติเรียกว่า Siamese Cat เลยทีเดียว
2. สีสวาด มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอำเภอพิมย จังหวัดนครราชสีมา โดยสายพันธุ์นี้มีชื่อเรียกมากมาย กระทั่งได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหน้านภาลัย ว่าแมวโคราช และใช้ชื่อนี้เรื่อยมา ตามตำนานพื้นบ้านเล่าสืบต่อกันมาว่าหากหางของพวกเขาหงิกงอมากจะยิ่งให้โชคลาภเพิ่มขึ้น นำมาซึ่งความสุขสวัสดิ์มงคลให้กับผู้เลี้ยงอย่างมากมาย
แมวสีสวาด มีลักษณะขนเหมือนเมล็ดของต้นสวาด คล้ายสีเมฆติดตัวมาตั้งแต่เกิดจนตาย ส่วนใบหน้ารูปหัวใจ ยิ่งตัวผู้จะเห็นได้อย่างชัดเจน หน้าผากใหญ่แบน หูตั้ง ปลายหูมนโคนใหญ่ ผิวหนังจมูกและปากเป็นสีเงินหรือม่วงอ่อน ตาสีเหลืองอมเขียว ด้วยลักษณะพิเศษเหล่านี้จึงมักถูกเลือกใช้ในพิธีแห่นางแมวมาจนถึงปัจจุบัน
3. ศุภลักษณ์ มีอีกชื่อหนึ่งว่า แมวทองแดง เนื่องจากมีสีออกน้ำตาลเข้มเสมอกันตลอดทั้งตัว ดวงตามีสีเหลืองอำพัน หนวดคล้ายลวดทองแดง ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า หู ปลายขา หาง เป็นต้น จะมีสีเข้มมากกว่าบริเวณอื่น ๆ จึงทำให้มีความสวยสะดุดตาเป็นอย่างมาก
แมวศุภลักษณ์ มีความกระตือรือร้นเสมอ มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ชอบการผจญภัย รักอิสระ สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ชอบคนแปลกหน้า
4. โกนจา หรือโกญจา เป็นอีกหนึ่งแมวไทยมงคลที่ยังไม่สูญพันธุ์ เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงมีทรัพย์สมบัติมากมาย มีอำนาจวาสนา การงานราบรื่น เป็นที่ชื่นชอบทั้งเจ้านายและคนทั่วไป ทำสิ่งใดก็ประสบแต่ความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
แมวโกนจา มีลักษณะสีดำตลอดทั้งตัว ขนเล็กสั้น ละเอียดนุ่ม เรียบตรงทั้งลำตัว หัวกลม ปากเรียวแหลม หูตั้ง ดวงตาเป็นสีเหลืองอมเขียว หรือสีทองอ่อน ๆ รูปร่างสวยสาม สะโอดสะอง คล่องแคล่วว่องไว หางยาวปลายแหลม อุ้งเท้าคล้ายกับสิงห์โต จึงมีความสง่างามในขณะเคลื่อนไหว ซึ่งมีความคล้ายกับสายพันธุ์ต่างประเทศอย่าง บอมเบย์ นั่นเอง
5. ขาวมณี หรือขาวปลอด สันนิษฐานว่ามีการนำมาเลี้ยงครั้งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ พบหลักฐานตามจิตรกรรมฝาผนังของวัดต่าง ๆ เช่น วัดทองนพคุณ เป็นต้น ในปัจจุบันมีการเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเชื่อง เหมาะกับการเลี้ยงไว้ดูเล่น ที่สำคัญมีความเชื่อว่าจะคอยค้ำชู และนำโชคลาภมาให้เจ้าของอยู่เสมอ
ขาวมณีมีรูปร่างกลาง ๆ ขนขาวสั้นแน่น อ่อนนุ่ม ศีรษะคล้ายหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน ส่วนดวงตามี 3 ลักษณะ คือ สีฟ้า หรือสีเหลือง ทั้งสองข้าง และตาสองสี ระหว่างฟ้ากับเหลือง
ทั้งหมดนี้เป็นแมวไทยมงคลที่ยังไม่สูญพันธุ์ และมีคนนิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ที่ล้วนมีประวัติคู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน แถมมีความเชื่อส่วนบุคคลว่าหากใครเป็นเจ้าของ จะช่วยเสริมให้มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีบารมีและอำนาจวาสนา เป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังมองหาน้องเหมียวมาเป็นสัตว์เลี้ยงสักตัว แมวไทยก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
เครดิตภาพ : mthai.com / sites.google.com / gatoro.co / petsayhi.com / blockdit.com / themanfrommoon.com
#สัตว์เลี้ยง #สัตว์น่ารัก #พันธ์แมว